แนวโน้มใหม่ในการจัดหาแหล่งทั่วโลก

ในตลาดโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน วิธีการจัดหาสินค้าของเราได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยมีแนวโน้มใหม่หลายประการที่กำลังปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ของการจัดหาสินค้าทั่วโลก แนวโน้มเหล่านี้ไม่เพียงแต่กำหนดวิธีการจัดหาสินค้าของธุรกิจใหม่เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์และลำดับความสำคัญอีกด้วย ในบล็อกนี้ เราจะสำรวจแนวโน้มสำคัญที่ผลักดันนวัตกรรมในเวทีการจัดหา หลักการที่ชี้นำการเปลี่ยนแปลงนี้ และเทคโนโลยีใหม่ ๆ มีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงกระบวนการจัดหาอย่างไร

การเติบโตเน้นความยั่งยืน

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการเน้นย้ำถึงความยั่งยืนในการจัดหาแหล่งทั่วโลกมากขึ้น บริษัทต่างๆ ตระหนักดีว่าความยั่งยืนไม่ใช่เพียงความรับผิดชอบขององค์กรเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งจำเป็นทางธุรกิจอีกด้วย และได้กำหนดและบังคับใช้เป้าหมายด้านความยั่งยืนที่ชัดเจน การเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นอย่างหนึ่งในภูมิทัศน์การจัดหาแหล่งคือการบูรณาการการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างตั้งใจเข้ากับกระบวนการตัดสินใจ ปัจจุบัน ทีมจัดหาแหล่งกำลังประเมินปริมาณคาร์บอนและการใช้ทรัพยากรของผลิตภัณฑ์ที่จัดหา ส่งผลให้เกณฑ์การเลือกซัพพลายเออร์เน้นที่ประสิทธิภาพด้านความยั่งยืนเป็นหลัก ธุรกิจต่างๆ กำลังมองหาซัพพลายเออร์ที่มีค่านิยมสอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนอย่างจริงจัง ส่งเสริมความพยายามร่วมกันที่มุ่งสู่การสร้างห่วงโซ่อุปทานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แนวทางนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าการพิจารณาความยั่งยืนจะฝังรากลึกอยู่ในแกนหลักของกลยุทธ์การจัดหาแหล่ง

ผลกระทบจากการเติบโตของการค้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การเติบโตอย่างต่อเนื่องของการค้าทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อกลยุทธ์การจัดหาสินค้า ธุรกิจต่างๆ กำลังประเมินการพึ่งพาประเทศใดประเทศหนึ่งอีกครั้ง และนำกลยุทธ์ “จีน + 1” มาใช้ โดยกระจายฐานซัพพลายเออร์เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทานเมื่อเผชิญกับความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจ

นอกเหนือจากการบรรเทาความเสี่ยง แนวทางนี้ยังช่วยให้บริษัทต่างๆ ได้รับความได้เปรียบทางการแข่งขันด้วยการใช้กลยุทธ์การจัดหาแบบคู่ขนานเพื่อปรับต้นทุนให้เหมาะสมและวางตำแหน่งการจัดซื้อให้เป็นฟังก์ชันที่เพิ่มมูลค่า แทนที่จะเป็นศูนย์ต้นทุน

การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ มากขึ้น

เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของการจัดหาสินค้าจากทั่วโลกและเพิ่มประสิทธิภาพ การผสานรวมเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเรียนรู้ของเครื่องจักร (ML) กำลังปฏิวัติการจัดหาสินค้าจากทั่วโลก การตัดสินใจโดยอาศัยข้อมูลกำลังกลายเป็นบรรทัดฐาน และกระบวนการอัตโนมัติกำลังถูกนำมาใช้เพื่อปรับปรุงกระบวนการต่าง ๆ ของห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่การจัดซื้อไปจนถึงการจัดจำหน่าย

การวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงสามารถใช้เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าเพื่อช่วยปรับปรุงกระบวนการเลือกซัพพลายเออร์ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้นเมื่อต้องเลือกซัพพลายเออร์ จัดการสัญญา และประเมินความเสี่ยง เครื่องมือวิเคราะห์เชิงทำนายสามารถระบุการหยุดชะงักที่อาจเกิดขึ้นได้ ช่วยบรรเทาความเสี่ยงเชิงรุก และทำให้ห่วงโซ่อุปทานมีความยืดหยุ่นมากขึ้น

หลักการสำคัญ 3 ประการในการขับเคลื่อนการสร้างนวัตกรรมดิจิทัล

ในยุคนี้ที่การจัดหาทรัพยากรขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี หลักการสำคัญสามประการที่เป็นแนวทางในการสร้างสรรค์นวัตกรรม ได้แก่ ข้อมูล ข้อมูลเชิงลึก และข้อมูลเชิงลึก

  • ข้อมูล: รากฐานของการจัดหาที่มีประสิทธิภาพอยู่ที่การเข้าถึงข้อมูลที่ครอบคลุมและเชื่อถือได้เกี่ยวกับซัพพลายเออร์ โรงงาน และผลิตภัณฑ์ ข้อมูลดังกล่าวช่วยให้ธุรกิจสามารถตัดสินใจอย่างรอบรู้และปรับปรุงกระบวนการจัดหาให้มีประสิทธิภาพด้วยความแม่นยำและมั่นใจ
  • ข้อมูลเชิงลึก: เครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูงสามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับประสิทธิภาพของซัพพลายเออร์และโรงงาน การประเมินอย่างต่อเนื่องช่วยระบุพื้นที่สำหรับการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพ ส่งผลให้ความสัมพันธ์กับซัพพลายเออร์ดีขึ้นและประสิทธิภาพการดำเนินงานดีขึ้น
  • ข่าวกรอง: ระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนโดยข่าวกรองถือเป็นกุญแจสำคัญสำหรับกระบวนการจัดหาที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้น ลดความเสี่ยงจากข้อผิดพลาดของมนุษย์ และเพิ่มประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทานโดยรวม ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

การนำระบบดิจิทัลมาใช้เพื่อเพิ่มการจัดหาข้อมูล

เมื่อธุรกิจเติบโต การนำเทคโนโลยีมาใช้จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในการจัดหาสินค้า การนำข้อมูลและเวิร์กโฟลว์ไปเป็นดิจิทัลช่วยลดข้อผิดพลาดที่เกิดจากการทำงานด้วยมือ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และเพิ่มการมองเห็นห่วงโซ่อุปทาน นอกจากนี้ เทคโนโลยียังสามารถช่วยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด ตั้งแต่การจัดหา การออกแบบ และการผลิต ไปจนถึงการจัดจำหน่ายและการขนส่ง แพลตฟอร์มการทำงานร่วมกันและการติดตามแบบเรียลไทม์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประสานงานและลดระยะเวลาดำเนินการ

การบูรณาการโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีสอดคล้องกับเป้าหมายในการขับเคลื่อนคุณค่า ประสิทธิภาพ และความยั่งยืนตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจเท่านั้น แต่ยังมีส่วนสนับสนุนให้เกิดอนาคตที่รับผิดชอบและยั่งยืนมากขึ้นอีกด้วย

เนื่องจากธุรกิจต่างๆ พึ่งพาเทคโนโลยีในการดำเนินการจัดหาสินค้ามากขึ้น ความปลอดภัยทางไซเบอร์จึงถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา การปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อนและการรับรองความปลอดภัยของกระบวนการดิจิทัลถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของกลยุทธ์การจัดหาสินค้าสมัยใหม่

การเปลี่ยนโฉมโลจิสติกส์สู่ภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยี: EV Source

ที่ EV Cargo เรามุ่งมั่นที่จะทำตามวิสัยทัศน์ของเราในการเปลี่ยนระบบโลจิสติกส์ให้กลายเป็นอุตสาหกรรมเทคโนโลยี EV Source ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีเฉพาะของเราเป็นตัวอย่างของวิสัยทัศน์ของเรา EV Source คือชุดโมดูล SaaS ที่บูรณาการภายในกลุ่มเทคโนโลยี EV Cargo ซึ่งขยายการมองเห็นและการควบคุมห่วงโซ่อุปทานให้ครอบคลุมทั้งการจัดหา การผลิต และการปฏิบัติตามข้อกำหนด EV Source ไม่ใช่เพียงโซลูชันการจัดหาเท่านั้น แต่เทคโนโลยีของเรายังเปลี่ยนโฉมการจัดการห่วงโซ่อุปทานสมัยใหม่เพื่อเพิ่มความโปร่งใส ประสิทธิภาพ และความยั่งยืน

โดยสรุปแล้ว พลวัตของการจัดหาสินค้าจากทั่วโลกกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยความยั่งยืน เทคโนโลยี และการปรับตัวเชิงกลยุทธ์มีบทบาทสำคัญ เมื่อธุรกิจต่างๆ เดินหน้าไปในภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงนี้ การผสมผสานโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีจะพิสูจน์ให้เห็นว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืน มีประสิทธิภาพ และยืดหยุ่น EV Cargo เป็นผู้นำทาง โดยแสดงให้เห็นว่าอนาคตของการจัดหาสินค้าอยู่ที่การผสานรวมของนวัตกรรมและเทคโนโลยี การยอมรับแนวโน้มและหลักการเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถแข่งขันได้และตัดสินใจเลือกจัดหาสินค้าอย่างมีความรับผิดชอบในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว